“พรีเซนต์งานดี ก็มีโอกาสขายงานไปได้กว่าครึ่ง!”

หลายต่อหลายครั้งที่คนเก่งพลาดไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่งานที่คิดมานั้น ไอเดียดีแสนดีเริ่ดเลอเพอร์เฟค แต่ถ้าพรีเซนต์ห่วย ไม่สามารถถ่ายทอดคีย์หลักของงานนั้นไปยังคนฟังได้ งานนั้นแทบจะหมดค่าไปเลยในสายตาของคนฟัง

การพรีเซนต์งานให้น่าฟัง สื่อสารได้ครบถ้วน และขายงานได้ประสบความสำเร็จ นั่นแหละ ความท้าทายของคนทำงาน

แน่นอนว่ายิ่งพรีเซนต์ดีเข้าตาลูกค้า ยิ่งเพิ่มเปอร์เซ็นในการประสบความสำเร็จ! วันนี้ Future skill มีทริคดีๆ 9 ข้อที่จะทำให้คุณพรีเซนต์งานได้อย่างมือโปร มีอะไรกันบ้าง ไปดูกัน!!

1. จงเป็นนักเล่าเรื่อง ไม่ใช่นักใช้สไลด์เล่าเรื่อง

1. จงเป็นนักเล่าเรื่อง ไม่ใช่นักใช้สไลด์เล่าเรื่อง 

สไลด์เป็นแค่เครื่องมือที่ให้ใส่ประเด็นเอาไว้เท่านั้น ผู้พูดต้องเป็นคนใส่รายละเอียดในแต่ละประเด็น และสร้างสรรค์วิธีการเล่าให้น่าสนใจ จูงใจผู้ฟัง ทำให้พวกเขาเชื่อและคล้อยตาม

2. หมั่นฝึกฝนกับสไลด์

2. หมั่นฝึกฝนกับสไลด์ 

วางแผนว่าในแต่ละสไลด์จะสื่อถึงเรื่องอะไร และจัดการกับ Flow ของสไลด์ ไม่ข้ามสไลด์ไปมา และซ้อมพูดกับสไลด์ และปรับ Flow ของสไลด์ให้เหมาะสมกับเรื่องราวที่จะเล่า

3. อย่าซ้อมมากจนเกินไป

3. อย่าซ้อมมากจนเกินไป 

คำว่าอย่าซ้อมมากเกินไปในที่นี้ หมายถึง อย่าซ้อมบรรยายจนเป็นแพทเทิร์น ให้พูดตามธรรมชาติโดยใช้ความรู้และความเข้าใจจะส่งพลังในการพูดและดีต่อภาพรวมในการพรีเซนต์

4. รู้ในสิ่งที่จะพูด

4. รู้ในสิ่งที่จะพูด 

การที่เรารู้ในสิ่งที่จะพูดนั้นสำคัญมาก เพราะมันจะช่วยสร้างความมั่นใจในการนำเสนอ และการรู้ว่าสไลด์ไหนเป็น Killing สไลด์ ก็จะช่วยให้สามารถสร้างสรรค์วิธีการพูดในส่วนนั้นให้จับใจผู้ฟังได้มากยิ่งขึ้น

5. รู้ว่าผู้ฟังของเราคือใคร

5. รู้ว่าผู้ฟังของเราคือใคร

การที่รู้ว่าคนที่จะพูดหรือเล่าเรื่องให้ฟังเป็นใคร จะช่วยให้สามารถเลือกภาษาและวิธีการให้เหมาะสมกับผู้ฟัง ซึ่งจะทำให้พวกเขาเข้าใจในสิ่งที่กำลังนำเสนอได้ง่ายมากขึ้น

6. สร้างบรรยากาศที่ดีในห้องประชุม

6. สร้างบรรยากาศที่ดีในห้องประชุม

เมื่อรู้ว่าผู้ฟังเป็นใคร ก็หาวิธีในการสร้างบรรยากาศที่ดีในห้องประชุม การที่ห้องประชุมมีบรรยากาศที่ดีก็จะช่วยส่งเสริมการพรีเซ้นของเราให้ทรงพลัง สามารถโน้มน้าวผู้ฟัง ไปจนถึงปิดการขายได้

7. ต้องมีจังหวะจะโคนในการพูด

7. ต้องมีจังหวะจะโคนในการพูด

หลายครั้งเราโฟกัสกับเนื้อหาที่จะพูดมากจนเกินไป ทำให้การพูดนั้นเร็วมากจนผู้ฟังจับประเด็นไม่ได้ ควรที่จะเว้นจังหวะในการพูด ให้รู้ว่าตรงไหนเป็นประเด็นสำคัญที่อยากจะเน้น ตรงไหนไม่ต้องเน้นมากก็พอจับใจความรู้เรื่อง

8. สร้างบทสนทนากับผู้ฟังด้วย

8. สร้างบทสนทนากับผู้ฟังด้วย

อย่าพูดฝ่ายเดียว ลองหาจังหวะสร้างบทสนทนากับผู้ฟังด้วย เพื่อเป็นการดึงสมาธิของผู้ฟังให้กลับมาโฟกัสอยู่กับเรา เพราะว่าการพรีเซ้นที่ใช้เวลายาวนานอาจจะทำให้ผู้ฟังไม่ได้จดจ่ออยู่กับเราเท่าที่ควร

9. มั่นใจและเป็นตัวเองดีที่สุด

9. มั่นใจและเป็นตัวเองดีที่สุด

หาสไตล์การพูดที่เป็นของเรา ไม่ว่ายังไงการเป็นตัวของตัวเองก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและจงมั่นใจในสิ่งที่เราได้เตรียมตัวมาทั้งหมด ความมั่นใจจะช่วยให้การพูดของเราทรงพลัง และสามารถประทับเข้าไปในใจของผู้ฟัง

อ่านเพิ่มเติม :